แอ่วเชียงราย เลาะดอยสูง ชมดอกไม้งาม
ที่พักเชียงราย{ พบ 38 รายการ }
Baan ChomnaresortDeluxe twin bed Grand Deluxe double bedเข้าชม: 990 | ความคิดเห็น: 0
ม่อนแมน รีสอรืทแอนด์สปาบ้านพักที่โอบล้อมด้วยภูเขาต้นไม้ มองเห็นเมืองเชียงใหม่ และชาเข้าชม: 994 | ความคิดเห็น: 0
บ้านดินลากูน่าบ้านดินลากูน่า รีสอร์ทธรรมชาติ บรรจงสร้างด้วยดิน ผสมผสานกับเเข้าชม: 1002 | ความคิดเห็น: 0
ปลายเนิน รีสอร์ท (Prainurn Resort)ปลายเนินรีสอร์ท ? รีสอร์ทสไตล์ ?บ้านดิน? โอบล้อมด้วยเนินเขาตเข้าชม: 989 | ความคิดเห็น: 0
Phuview Resort : ภูวิว รีสอร์ทภูวิว รีสอร์ท แม่สาย สถานที่ซึ่งรอการมาเยือนของคุณ ที่ซึ่งธรเข้าชม: 991 | ความคิดเห็น: 0
แม่ยาวรีสอร์ทพักที่แม่ยาว รีสอร์ท ท่านจะได้สัมผัสกับรีสอร์ทแบบธรรมชาติ ผ่เข้าชม: 993 | ความคิดเห็น: 0
โรงแรมยูนนานโรงแรมยูนนานตั้งอยู่ใจกลางเมืองแม่สาย ท่านสามารถเดินทางไปยังเข้าชม: 989 | ความคิดเห็น: 0
โกลเด้น ไทรแองเกิ้ล คลับ พาราไดซ์ รีสอร์ทยินดีให้บริการห้องพัก รีสอร์ท ห้องอาหาร ดนตรี กิจกรรมการแสดงเข้าชม: 1025 | ความคิดเห็น: 0
รังสินี รีสอร์ท & ทัวร์ เชียงรายรังสินี รีสอร์ท "โอบกอดลมหนาว ดูดาวบนดิน วารินเป็นไอหมเข้าชม: 995 | ความคิดเห็น: 0
บ้านณัฐวดี รีสอร์ท เชียงรายบ้านณัฐวดีรีสอร์ท อยู่เขตเทศบาลเมืองเชียงราย เป็นรีสอร์ทเดียเข้าชม: 998 | ความคิดเห็น: 0
เหนือสุดแดนสยาม ชายแดนสามแผ่นดิน ถิ่นวัฒนธรรมล้านนา ล้ำค่าพระธาตุดอยตุง…นี่คือคำขวัญของจังหวัดเล็กๆ ที่หลบซ่อนสายตาผู้คนอยู่ในทิวเขา ที่รายล้อมโอบอุ้มความเขียวขจีของทรัพยากรทางธรรมชาติไว้ได้อย่างมิดชิด ใช่แล้วค่ะ...เรากำลังพูดถึง "จังหวัดเชียงราย" จังหวัดที่มีเส้นทางสายยาวที่สลับซับซ้อน ทอดตัวผ่านขุนเขาสูงเสียดฟ้า มีความงามตระการตาของสายหมอกสีขาวจาง มีดอกไม้ที่บานสะพรั่ง และมีขนบธรรมเนียมประเพณีแบบล้านนาที่งดงาม
นั้นแน่! เริ่มอยากไปสัมผัสความงามของเมืองแห่งขุนเขาแล้วใช่ไหมล่ะ วันนี้จะแบกเป้บินลัดฟ้าพาไปสำรวจจังหวัดเชียงรายกันค่ะ...ใครที่ชอบธรรมชาติ รักการผจญภัย อยากสูดอากาศบริสุทธิ์ และสัมผัสสายลมหนาว ก็ตามเข้ามาเลย...
จังหวัดเชียงรายเป็นจังหวัดที่อยู่เหนือสุดของประเทศไทย ติดกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และสหภาพพม่า ห่างจากเมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานคร 829 กิโลเมตร มีพื้นที่ประมาณ 11,678 ตารางกิโลเมตร สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.1805 โดย "พ่อขุนเม็งราย" ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นภูเขา และยังคงมีกลิ่นอาย ร่องรอย ของซากเมืองที่มีความเจริญทางวัฒนธรรมและศิลปะในอดีต อยู่ตามริมแม่น้ำกก แม่น้ำสายหลักที่ไหลผ่านเมือง
สำหรับสถานที่เที่ยวสุดฮิตที่น่าสนใจในจังหวัดเชียงราย มีมากมายให้ไปสัมผัสและเยี่ยมเยือน ไม่ว่าจะเป็น...
วัดพระธาตุผาเงา
วัดพระธาตุผาเงา ตั้งอยู่ในอำเภอเชียงแสน บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง ตรงข้ามกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ที่มาของวัดมาจากชื่อของพระธาตุผาเงา (ทรงระฆัง) ที่ตั้งอยู่บนยอดหินก้อนใหญ่ ข้างหลังวัดเป็นที่ตั้งของพระบรมพุทธนิมิตรเจดีย์ และเป็นจุดชมวิววที่สวยงาม สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของทั้ง 2 ประเทศ คือประเทศไทยและสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว อยู่ห่างจากอำเภอเชียงแสนไปตามเส้นทางเชียงแสน - เชียงของ ประมาณ 4 กิโลเมตร อยู่ตรงข้ามโรงเรียนสบคำ
วัดพระธาตุดอยเวา
พระธาตุดอยเวา เป็นปูชนียสถานอันเก่าแก่ ตั้งอยู่บนดอยริมฝั่งแม่น้ำแม่สาย ห่างจากชายแดนไทยพม่าเพียง 500 เมตร ถูกสร้างขึ้นเมื่อพุทธศักราช 296 โดยขุนควักเวาหรือพระองค์เวา กษัตริย์องค์ที่ 10 แห่งนครนาคพันธุ์ (เชียงแสนโบราณ) สร้างพระเจดีย์บรรจุพระเกศาธาตุไว้บนดอยนี้ จึงเรียกพระธาตุดอยเวาตามพระนามของผู้สร้าง นับเป็นพระบรมธาตุที่เก่าแก่องค์หนึ่งรองมาจากพระบรมธาตุดอยตุง
นอกจากนี้ บนยอดดอยเวายังเป็นจุดที่สามารถชมทิวทัศน์ของอำเภอแม่สาย และท่าขี้เหล็กทางฝั่งพม่าได้อย่างชัดเจน และมีอนุสาวรีย์พระเรศวรมหาราชให้สักการะบูชา ทั้งนี้ เวา ในภาษาล้านนาแปลว่า แมงป่องช้าง ดังนั้นตรงจุดชมวิวจึงมีรูปปั้นแมงป่องยักษ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกตั้งอยู่เป็นสัญลักษณ์ของพระธาตุดอยเวาอีกด้วย
พระธาตุดอยตุง
พระธาตุดอยตุงตั้งอยู่บนดอยตุง บริเวณกิโลเมตรที่ 17.5 ของทางหลวงหมายเลข 1149 เป็นที่บรรจุพระรากขวัญเบื้องซ้าย (กระดูกไหปลาร้า) ของพระพุทธเจ้า นำมาจากมัธยมประเทศ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่พระพุทธศาสนาลัทธิลังกาวงศ์ ได้มาประดิษฐานที่ล้านนาไทย เมื่อก่อสร้างพระสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุนี้ ได้ทำธงตะขาบ (ภาษาพื้นเมืองเรียกว่า ตุง) ใหญ่ยาวถึงพันวา ปักไว้บนยอดดอย ถ้าหากปลายธงปลิวไปไกลถึงเมืองไหน ก็จะกำหนดเป็นฐานพระสถูป เหตุนี้ดอยซึ่งเป็นที่ประดิษฐานปฐมเจดีย์แห่งล้านนาไทย จึงปรากฏนามว่า "ดอยตุง"
พระธาตุดอยตุงเป็นปูชนียสถานที่สำคัญ เมื่อถึงเทศกาลนมัสการพระธาตุดอยตุงในวันเพ็ญเดือน 3 จะมีพุทธศาสนิกชนทั้งชาวไทยและเพื่อนบ้านจากประเทศใกล้เคียง เช่น ชาวเชียงตุงในรัฐฉาน ประเทศสหภาพพม่า ชาวหลวงพระบาง เวียงจันทน์ เดินทางเข้ามานมัสการทุกปี พระธาตุดอยตุงถือเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนเกิดปีกุน ที่นิยมมาสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล
ไร่แม่จันแวลเล่ย์
ตั้งอยู่บนดอยแม่สลอง มีเนื้อที่ประมาณ 1,300 ไร่ แบ่งออกเป็น ไร่องุ่นและโรงงานผลิตไวน์ ไร่ชาและโรงงานผลิตชาอู่หลง โรงงานเจียระไนยพลอย นาข้าว แปลงเพาะชำปลูกผักผลไม้ และห้องพักบริการนักท่องเที่ยวที่มีชื่อเรียกว่า "ดอยห่มฟ้ารีสอร์ท" สำหรับโรงงานผลิตไวน์ของไร่แม่จันแวลเล่ย์ เรียกได้ว่าเป็นโรงงานผลิตไวน์องุ่นแห่งเดียวในภาคเหนือที่รับมาตรฐานจากสมาคมผู้ประกอบการไวน์ไทย ในส่วนของการปลูกชาของไร่แม่จันแวลเล่ย์ จะเน้นที่ชาอู่หลงเป็นหลัก และมีพื้นที่ในการปลูกชา 100 ไร่ อีกทั้งยังส่งออกไปยังต่างประเทศ เช่น ไต้หวัน จีน ฯลฯ
ไร่แม่จันแวลเล่ย์มีทัศนียภาพที่สวยงาม เพราะตั้งอยู่บนยอดดอยสูง อีกทั้งยังปลูกองุ่น ปลูกชา ลดหลั่นเรียงรายตามแนวเขาแบบขั้นบันได กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา ที่สำคัญมีอ่างเก็บน้ำแม่เปินไหลผ่านสร้างความเย็นฉ่ำ และการที่จะเข้าชมไร่แม่จันแวลเล่ย์จะต้องนั่งเรือแพลำเล็กๆ ที่ทางไร่ประดิษฐ์คิดค้นขึ้นมานำส่งนักท่องเที่ยว เพื่อสร้างบรรยากาศให้เข้ากับความงามของธรรมชาติ สำหรับผู้ที่สนใจอยากไปสัมผัสความงามของไร่แม่จันแวลเล่ย์ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 5391 4999
กลุ่มแกะสลักไม้พื้นบ้านและบ้านช้างลีลา 108
สัมผัสความสวยงามของศิลปะหัตถกรรมพื้นบ้าน โดยกลุ่มสล่า (ช่าง) แกะสลักไม้พื้นบ้านของจังหวัดเชียงราย ที่ตำบลท่าสุด อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ซึ่งแกะสลักไม้ด้วยมือ และใช้มีดเหลาไม้ขนาดเล็กๆ ในการแกะสลัก มีผลงานการแกะสลักที่หลากหลายมากมาย เช่น ไม้สักแกะสลักรูปช้าง ไม้สักแกะสลักรูปพระพุทธรูป ไม้สักแกะสลัก 12 ราศี ไม้สักแกะสลักวิถีชีวิตของผู้คน ฯลฯ ซึ่งเน้นนำวัสดุธรรมชาติมาสร้างสรรค์ผลงาน นอกจากนี้ยังมีการแกะสลักไม้ให้เคลื่อนไหวเสมือนมีชีวิตจริง โดยการนำเอานวัตกรรมสมัยใหม่มาประยุกต์ใช้ให้เข้ากัน ซึ่งผลงานการแกะสลักจะเป็นชิ้นเล็กๆ ที่ละเอียด ปราณีต สวยงาม
กลุ่มแกะสลักไม้พื้นบ้านในครัวเรือนบ้านถ้ำผาตอง เป็นกลุ่มช่างแกะสลักที่ได้รับการถ่ายทอดภูมิปัญญาจากช่างฝีมือพื้นบ้านที่มีชื่อเสียงมาตั้งแต่บรรพบุรุษ และที่สามารถจัดทำกันเป็นกลุ่มอย่างเป็นกิจจะลักษณะมีความเข้มแข็งเติบโตได้ เริ่มก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2527 โดย "สล่าคำจันทร์ ยาโน" พร้อมได้ชวนเพื่อนอีก 2 คน คือ "สล่าสุวรรณ สามสี" และ "สล่าจิ๊ก" มาร่วมกันทำงานแกะสลักเพื่อส่งไปจำหน่าย จนฝีมือการแกะสลักเป็นที่รู้จักมากขึ้น จึงได้ชักชวนเพื่อนคนอื่นและเยาวชนที่สนใจมาฝึกสอนฝึกหัด นี่เป็นจุดเริ่มต้นของการทำงานกันเป็นกลุ่ม
สำหรับใครที่ต้องการไปชม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่กลุ่มแกะสลักไม้พื้นบ้าน (บ้านถ้ำผาตอง) โทร. 0-5378-7233, 08-1602-4775, 08-1784-8103 และ บ้านช้างลีลา โทร. 0-5378-7237, 08-1883-5491
ตลาดไนท์บาซาร์เชียงราย
ตั้งอยู่ถนนพหลโยธิน บริเวณสถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดเชียงราย เป็นที่จำหน่ายของพื้นเมือง ของที่ระลึก และของฝาก จากฝีมือชาวเชียงรายและชาวเขาเผ่าต่างๆ มีทั้งเสื้อผ้า เครื่องประดับ รองเท้า กระเป๋า ตุ๊กตาชาวเขา งาน Handmade หลากแบบหลายสไตล์ อีกทั้งยังมีการจำหน่ายของตกแต่งบ้านที่ทำจากไม้ สินค้าหัตถกรรม (หรือสินค้าทำมือ) ต่างๆ เช่น ไม้แกะสลัก ภาพวาด ฯลฯ ใครที่อยากเพลินเพลินกับแสงสีของเมืองเชียงรายในยามค่ำคืน ก็อย่าลืมไปเดินเล่นกินลมชมของสวยได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 18.30 น. - 23.00 น.
ล่องเรือแม่น้ำกก ชมหมู่บ้านกะเหรี่ยง
ใครที่ชอบชมธรรมชาติและความชุ่มฉ่ำของสายน้ำไม่ควรพลาด กับการไปล่องเรือในแม่น้ำกก แม่น้ำที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงราย เพราะตลอดสองฟากฝั่งของแม่น้ำกกจะเป็นป่าเขาที่สวยงามตามธรรมชาติ นอกจากนี้ยังสามารถแวะชมวิถีชีวิตหมู่บ้านชาวเขาต่างๆ เช่น อีก้อ ลีซอ กะเหรี่ยง หรือจะแวะปางช้างให้อาหารและนั่งช้างเที่ยวป่ารอบบริเวณนั้นก็ได้
ไร่แม่ฟ้าหลวง
ไร่แม่ฟ้าหลวง อยู่บริเวณพื้นราบทางตะวันตกของตัวเมืองเชียงราย ครั้งหนึ่งเคยเป็นสถานที่อบรมเยาวชนชาวเขาจากหมู่บ้านต่างๆ ในภาคเหนือ ปัจจุบันเป็นอุทยานศิลปะและวัฒนธรรมอันรื่นรมย์ด้วยหมู่ไม้นานาพรรณ ในพื้นที่ 150 ไร่ เหมาะสำหรับผู้แสวงหาความสงบเงียบและแรงบันดาลใจอันเกิดจากธรรมชาติ และศิลปวัฒนธรรมพื้นถิ่น สถานที่น่าสนใจในไร่แม่ฟ้าหลวง ประกอบด้วย…
"หอคำ" สถาปัตยกรรมล้านนาซึ่งมีหลังคามุงด้วยแผ่นไม้สัก ชาวเชียงรายร่วมกันสร้างเพื่อ "ไหว้สาแม่ฟ้าหลวง" ถวายเนื่องในวโรกาสที่สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีเจริญพระชนมายุ 84 พรรษา เมื่อปี พ.ศ. 2527 อันเป็นฝีมือช่างไม้พื้นบ้านในจังหวัดเชียงรายและแพร่ ภายในหอคำเป็นที่เก็บรวบรวมศิลปวัตถุและงานพุทธศิลป์ มีทั้งพระพุทธรูปแบบล้านนา พม่า และเครื่องไม้แกะสลักที่ในในการพระศาสนา เช่น สัตภัณฑ์ (เชิงเทียนไม้เก่าแก่) ตุงกระด้าง(ตุงหรือธงไม้) ฯลฯ โดยในหอคำมีพระพุทธรูปองค์สำคัญในหอคำ คือ พระเจ้าพร้าโต้ ซึ่งมีจารึกว่าสร้างในปี พ.ศ. 2236 โดยชาวบ้านซึ่งเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ในพื้นที่และยังไม่มีเครื่องมือที่เหมาะสมในการสลักเสลาพระพุทธรูปไม้ให้ประณีต จึงใช้เพียงมีดโต้เป็นเครื่องมือแกะสลักพระพุทธรูปมีลักษณะแข็งแรงและสง่างาม
"หอคำน้อย" อาคารศิลาแลงหลังคาเป็นเกล็ดไม้สัก ที่เก็บภาพจิตรกรรมฝาผนังเขียนด้วยสีฝุ่นบนกระดานไม้สัก สันนิษฐานว่าเขียนขึ้นในช่วงต้นรัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ โดยช่างเขียนชาวไทยลื้อ ภาพแสดงให้เห็นถึงความเป็นอยู่ การแต่งกาย และวัฒนธรรมล้านนาเมื่อกว่าร้อยปีมาแล้ว
"หอแก้ว" ซึ่งมีพื้นที่แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งใช้เป็นที่ทำกิจกรรม เช่น การประชุมสัมมนา จัดเลี้ยง ฯลฯ มีระเบียงยื่นลงไปในสระน้ำกว้างใหญ่ เหมาะแก่การสังสรรค์อันรื่นรมย์ และปลอดโปร่งใจอีกส่วนหนึ่งเป็นพื้นที่จัดนิทรรศการ ทั้งนิทรรศการหมุนเวียน และนิทรรศการถาวร นิทรรศการถาวรเป็นนิทรรศการเกี่ยวกับไม้สัก ทั้งในด้านพฤกษศาสตร์ และในด้านเป็นวัสดุอันเลื่องชื่อสำหรับสร้างสรรค์งานศิลปะ
ไร่แม่ฟ้าหลวงเปิดทุกวันเวลา 08.00-18.00 น. (ยกเว้นวันจันทร์) ค่าเข้าชมคนไทย 150 บาท ต่างชาติ 200 บาท ทั้งนี้ ใครที่สนใจอยากไปชมความงามของไร่แม่ฟ้าหลวง ก็สอบถามรายละเอียดได้ที่ โทร. 0 5371 1968 โทรสาร 0 5371 2429 หรือ www.maefahluang.org
พิพิธภัณฑ์อูบคำ
ศูนย์อนุรักษ์มรดกอันล้ำค่าของอาณาจักรล้านนาโบราณ และความหลากหลายของเสื้อผ้า และอาภรณ์ของชนชาติไตเผ่าต่างๆ ในอาณาจักรล้านนา และด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะอนุรักษ์ความเป็นมาอันยิ่งใหญ่ของชาวล้านนา ทำให้ อาจารย์จุลศักดิ์ สุริยะไชย ได้จัดตั้งพิพิธภัณฑ์อูบคำขึ้นมาด้วยแรงกาย แรงใจ และทุนทรัพย์ เพื่อเป็นศูนย์อนุรักษ์มรดกล้ำค่าของอานาจักรล้านนาโบราณ เก็บของมีค่าสมัยล้านนาที่กระจายอยู่ในที่ต่างๆ ให้คืนกลับสู่แผ่นดินไทย และเพื่อให้อนุชนรุ่นหลังได้ศึกษาถึงความเป็นมาของบรรพบุรุษต่อไปในอนาคต เช่น เครื่องใช้ในราชสำนักล้านนา เครื่องใช้ในราชสำนักคุ้มเจ้าต่างๆ ในล้านนา ผ้าโบราณอายุ 200 ปี พระพุทธรูป และบัลลังค์ของเจ้าฟ้าในสมัยโบราณที่สมบูรณ์ที่สุดอีกด้วย ฯลฯ
โดยคำว่า อูบคำ เป็นชื่อที่มาจากอูบทองคำที่อาจารย์จุลศักดิ์ได้รับเป็นมรดกตกทอดจากบิดา ซึ่งสืบเชื้อสายจากพระยาสุลวฤาชัย (หนานทิพย์ช้าง) เจ้านครลำปาง (พ.ศ. 2275-2301) และใช้ชื่อดังกล่าวต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน
สำหรับพิพิธภัณฑ์อูบคำ เปิดบริการให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 น. - 18.00 น. อัตราค่าเข้าชม คนไทย ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท ชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท
แหม...รู้จักจังหวัดเชียงรายกันพอหอมปากหอมคอแล้ว ใครที่อยากหลีกหนีความวุ่นวาย และไปสัมผัสชีวิตเรียบง่าย "จังหวัดเชียงราย" คงเป็นคำตอบสุดท้ายที่ดีที่สุดนะคะ