จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
:ข้อมูลทั่วไป
ที่พักพระนครศรีอยุธยา{ พบ 21 รายการ }
เวลเนสโฮม รีสอร์ท แอนด์ สปา พระนครศรีอยุธยารีสอร์ทสำหรับคนรักษ์สุขภาพ อยู่บนเนื้อที่กว่า 1200 ไร่ ความสเข้าชม: 951 | ความคิดเห็น: 0
THE LIMA PLACEWelcome to The Lima Place The Lima Place is a modern stylisเข้าชม: 942 | ความคิดเห็น: 0
บ้านจิตต์วิไลจิตต์วิไล เพลส และ บ้านจิตต์วิไล ยินดีต้อนรับทุกท่าน เข้าชม: 941 | ความคิดเห็น: 0
Pludhaya Resort & SpaPludhaya Resort & Spa, the first Thai style boutique resเข้าชม: 935 | ความคิดเห็น: 0
the P.U. INN UBONPONWelcome to the P.U. INN UBONPON One of the best places toเข้าชม: 936 | ความคิดเห็น: 0
ผักไห่ แอ๊คคลูซีพ เฮ้าส์ผักไห่ แอ๊คคลูซีพ เฮ้าส์เข้าชม: 938 | ความคิดเห็น: 0
กระท่อมเจ้าพระยาเรือนอาหารเจ้าพระยา อิ่มอร่อยกับอาหารไทยสดๆ จากแม่น้ำบนเเข้าชม: 940 | ความคิดเห็น: 0
โรงแรมอยุธยาธานีโรงแรมอยุธยาธานี เชิญคุณมาสัมผัส ห้องพักสไตล์โมเด้น ตั้งอยู่เข้าชม: 939 | ความคิดเห็น: 0
The U-Thong InnThe U-Thong Inn is conveniently situated north of Bangkok inเข้าชม: 935 | ความคิดเห็น: 0
Baan Suan means Garden HouseBaan Suan means Garden House in Thai. When we, the property เข้าชม: 937 | ความคิดเห็น: 0
Woraburi Hotels & ResortsWelcome to Woraburi Hotels & Resorts ?Experience the difเข้าชม: 933 | ความคิดเห็น: 0
มีทองเกสท์เฮาส์มีทองเกสท์เฮาส์เข้าชม: 1044 | ความคิดเห็น: 0
โรงแรม ณ อยุธยา ยินดีต้อนรับโรงแรม ณ อยุธยา ยินดีต้อนรับ ขอต้อนรับท่านเข้าสู่โรงแรม ณเข้าชม: 942 | ความคิดเห็น: 0
Ayutthaya Garden RiverAyutthaya Garden River Home is like a Gateway to Ayutthaya Wเข้าชม: 937 | ความคิดเห็น: 0
ราชธานีเก่า อู่ข้าวอู่น้ำ เลิศล้ากานท์ทวี คนดีศรีอยุธยา
417 ปีแห่งการเป็นราชธานีเก่าแก่ของสยามประเทศ ประกอบด้วย ราชวงศ์ คือ ราชวงศ์อู่ทอง ราชวงศ์สุพรรณภูมิ ราชวงศ์สุโขทัย ราชวงศ์ปราสาททองและราชวงศ์บ้านพลูหลวง มีกษัตริย์ปกครองทั้งสิ้น 33 พระองค์ โดยมีปฐมกษัตริย์ คือ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) พระนครศรีอยุธยาจึงนับเป็นราชธานีที่มีอายุยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ของชาติไทย ตลอดระยะเวลา 417 ปี ที่กรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานีแห่งราชอาณาจักรไทย มิได้เป็นเพียงช่วงแห่งความเจริญสูงสุดของชนชาติไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างสรรค์อารยธรรมของหมู่มวลมนุษยชาติซึ่งเป็นที่ประจักษ์แก่นานาอารยประเทศอีกด้วย แม้ว่ากรุงศรีอยุธยาจะถูกทำลายเสียหายจากสงครามกับประเทศเพื่อนบ้านหรือจากการบุกรุกขุดค้นของพวกเรากันเอง แต่สิ่งที่ปรากฏให้เห็นในปัจจุบันนี้ยังมีร่องรอยหลักฐานซึ่งแสดงอัจฉริยภาพและความสามารถอันยิ่งใหญ่ของบรรพบุรุษแห่งราชอาณาจักรผู้อุทิศตนสร้างสรรค์ความเจริญรุ่งเรืองทางศิลปวัฒนธรรม และความมั่งคั่งไว้ให้แก่ผืนแผ่นดินไทย หรือแม้แต่ชาวโลกทั้งมวล จึงเป็นที่น่ายินดีว่าองค์การยูเนสโก้ โดยคณะกรรมการมรดกโลกได้มีมติรับนครประวัติศาสตร์ พระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีอาณาเขตครอบคลุมอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา และเป็นพื้นที่ที่ได้รับการจัดตั้งเป็นอุทยานประวัติศาสตร์มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2519 ไว้ในบัญชีมรดกโลก เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2534 ณ กรุงคาร์เทจ ประเทศตูนีเซีย พร้อมกับอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย-อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย-อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชรโดยจะมีผลให้ได้รับความคุ้มครองตามอนุสัญญาที่ประเทศต่างๆได้ทำร่วมกัน จึงสมควรที่อนุชนรุ่นหลังจะได้ไปศึกษาเยี่ยมชมเมืองหลวงเก่าของเราแห่งนี้
สถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาส่วนใหญ่เป็นโบราณสถาน ได้แก่ วัด และพระราชวังต่างๆ พระราชวังในจังหวัดพระนครศรีอยุธยามีอยู่ 3 แห่ง คือ พระราชวังหลวง วังจันทรเกษมหรือวังหน้า และวังหลัง นอกจากนี้ยังมีวังและตำหนักนอกอำเภอพระนครศรีอยุธยาซึ่งเป็นที่สำหรับเสด็จประพาส ได้แก่ พระราชวังบางปะอิน ในเขตอำเภอบางปะอิน และตำหนักนครหลวง ในเขตอำเภอนครหลวง
ภูมิประเทศของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นที่ราบลุ่ม มีแม่น้ำสายใหญ่ไหลผ่าน 3 สาย คือ แม่น้ำเจ้าพระยาไหลผ่านทางด้านทิศตะวันตกและทิศใต้ แม่น้ำป่าสักไหลผ่านทางทิศตะวันออก และแม่น้ำลพบุรี (ปัจจุบันเป็นคลองเมือง)ไหลผ่านทางด้านทิศเหนือ แม่น้ำสามสายนี้ไหลมาบรรจบกันโอบล้อมรอบพื้นที่ของตัวเมืองพระนครศรีอยุธยา ตัวเมืองจึงมีลักษณะเป็นเกาะ เราจะเห็นบ้านเรือนปลูกเรียงรายหนาแน่นตามสองข้างฝั่งแม่น้ำแสดงถึงวิถีชีวิตของผู้คนที่ผูกพันอยู่กับสายน้ำมายาวนาน
จังหวัดพระนครศรีอยุธยาอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 76 กิโลเมตร มีเนื้อที่ทั้งสิ้นประมาณ 2,556 ตารางกิโลเมตร แบ่งเขตการปกครองออกเป็น 16 อำเภอ ได้แก่ อำเภอพระนครศรีอยุธยา อำเภอนครหลวง อำเภอภาชี อำเภอบ้านแพรก อำเภอบางซ้าย อำเภอบางไทร อำเภอลาดบัวหลวง อำเภอบางบาล อำเภอมหาราช อำเภอบางปะหัน อำเภอเสนา อำเภออุทัย อำเภอบางปะอิน อำเภอผักไห่ อำเภอท่าเรือ และอำเภอวังน้อย
ประวัติศาสตร์
พระนครศรีอยุธยาเคยเป็นราชธานี (เมืองหลวง) ของอาณาจักรอยุธยา หรืออาณาจักรสยาม ตลอดระยะเวลา 417 ปี ตั้งแต่ พ.ศ. 1893 กระทั่งเสียกรุงแก่พม่า เมื่อ พ.ศ. 2310 ครั้นเมื่อพระเจ้าตากสินมหาราชทรงสถาปนาราชธานีแห่งใหม่ที่กรุงธนบุรี กรุงศรีอยุธยาก็ไม่ได้กลายเป็นเมืองร้าง ยังมีคนที่รักถิ่นฐานบ้านเดิมอาศัยอยู่ และมีราษฎรที่หลบหนี้ไปอยู่ตามป่า กลับเข้ามาอาศัยอยู่รอบ ๆ เมือง รวมกันเข้าเป็นเมือง จนทางการยกเป็นเมืองจัตวาเรียกว่า "เมืองกรุงเก่า"
เมื่อ พ.ศ. 2325 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงยกเมืองกรุงเก่าขึ้นเป็น หัวเมืองจัตวา เช่นเดียวกับในสมัยกรุงธนบุรี หลังจากนั้น พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดให้จัดการปฏิรูปการปกครองทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยการปกครองส่วนภูมิภาคนั้น โปรดให้จัดการปกครองแบบเทศาภิบาลขึ้น โดยให้รวมเมืองที่อยู่ใกล้เคียงกัน 3-4 เมือง ขึ้นเป็นมณฑล มีข้าหลวงเทศาภิบาลเป็นผู้ปกครอง โดยในปี พ.ศ. 2438 ทรงโปรดให้จัดตั้งมณฑลกรุงเก่าขึ้น ประกอบด้วยหัวเมืองต่าง ๆ คือ กรุงเก่าหรืออยุธยาอ่างทองสระบุรีลพบุรีพรหมบุรีอินทร์บุรี และสิงห์บุรี
ต่อมาทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้รวมเมืองอินทร์และเมืองพรหมเข้ากับเมืองสิงห์บุรี ตั้งที่ว่าการมณฑลที่อยุธยา และในปี พ.ศ. 2469 เปลี่ยนชื่อจาก "มณฑลกรุงเก่า" เป็น "มณฑลอยุธยา" ซึ่งจากการจัดตั้งมณฑลอยุธยามีผลให้อยุธยามีความสำคัญทางการบริหารการปกครองมากขึ้น การสร้างสิ่งสาธารณูปโภคหลายอย่างมีผลต่อการพัฒนาเมืองอยุธยาในเวลาต่อมา จนเมื่อยกเลิกการปกครองระบบเทศาภิบาล ภายหลังการเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ. 2475อยุธยาจึงเปลี่ยนฐานะเป็นจังหวัดพระนครศรีอยุธยาจนถึงปัจจุบัน
ในสมัยจอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี ได้มีนโยบายบูรณะโบราณสถานภายในเมืองอยุธยา เพื่อเป็นการฉลองยี่สิบห้าพุทธศตวรรษ ประจวบกับในปี พ.ศ. 2498 นายกรัฐมนตรีประเทศพม่าเดินทางมาเยือนประเทศไทย และได้มอบเงินจำนวน 200,000 บาท เพื่อปฏิสังขรณ์วัดและองค์พระมงคลบพิตร เป็นการเริ่มต้นบูรณะโบราณสถานในอยุธยาอย่างจริงจัง ซึ่งต่อมากรมศิลปากรเป็นหน่วยงานสำคัญในการดำเนินการ จนองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติหรือยูเนสโกมีมติให้ประกาศขึ้นทะเบียนอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา เป็น "มรดกโลก" เมื่อวันที่ 13 ธันวาคมพ.ศ. 2534 มีพื้นที่ครอบคลุมในบริเวณโบราณสถานเมืองอยุธยา
อาณาเขต
ทิศเหนือ ติดต่อกับจังหวัดลพบุรี อ่างทอง และสระบุรี
ทิศใต้ ติดต่อกับจังหวัดปทุมธานี และนนทบุรี
ทิศตะวันออก ติดต่อกับจังหวัดสระบุรี
ทิศตะวันตก ติดต่อกับจังหวัดสุพรรณบุรี
หมายเลขโทรศัพท์ที่สำคัญ
ศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โทร. 0 3533 6550, 0 3533 6647
ศูนย์ท่องเที่ยวอยุธยา อาคารศาลากลางจังหวัดหลังเก่า โทร. 0 3532 2730-1
สถานีตำรวจภูธรอำเภอพระนครศรีอยุธยา โทร. 0 3524 1001, 0 3524 1608
โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา โทร. 0 3524 1027, 0 3524 1728
โรงพยาบาลราชธานี โทร. 0 3533 5555–61
สถานีเดินรถโดยสารประจำทาง โทร. 0 3533 5304
สถานีรถไฟ โทร. 0 3524 1521
ตำรวจท่องเที่ยว โทร. 1155
ตำรวจทางหลวง โทร. 1193
Link ที่น่าสนใจ
ททท. สำนักงานพระนครศรีอยุธยา
http://www.tourismthailand.org/ayutthaya
ข้อมูลตำบลและสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์
http://www.thaitambon.com
สำนักงานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
http://www.ayutthaya.go.th
แหล่งข้อมูล :
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี